เมนู

เกิดความประหลาดอัศจรรย์ ความประหลาดอัศจรรย์ที่วิเศษยิ่งกว่านั้น ยังมีอยู่
ขอท่านทั้งหลายจงพึงความอัศจรรย์นั้นของเรา จึงตรัสคำเป็นต้นว่า
การทำฤทธิ์ต่าง ๆ ของเรา จะอัศจรรย์อะไรใน
โลก ความอัศจรรย์ทั้งหลายอย่างอื่น ที่น่าประหลาด
น่าขนลุกชัน ยังมีเป็นอันมาก.


แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า กึ เป็นคำค้าน. ตรัสคำว่า เอตํ ทรง
หมายถึงการทำฤทธิ์ต่างๆ นี้. บทว่า ยํ ความว่า ศัพท์ว่า ยํ นี้ ใช้ในอรรถทุติยา
วิภัตติได้ในประโยคเป็นต้นว่า ยํ ตํ อปุจฺฉิมฺห อกิตฺตยีโน อญฺญํ ตํ
ปุจฺฉาม ตทิงฺฆ พฺรูหิ
ข้าพระองค์ทูลถามปัญหานั้นใด ก็ตรัสตอบแก่ข้าพระองค์
ข้าพระองค์จะทูลถามปัญหาอื่นนั้น ขอโปรดตอบปัญหานั้นด้วย, ใช้ในอรรถว่า
เหตุได้ในประโยคนี้ อฏฺฐานเมตํ ภิกฺขเว อนวกาโส ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุ-
ยา เทฺว อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหตุใด พระ-
อรหันตสัมมาสัมพุทธแห่งโลกธาตุเดียว มี 2 พระองค์ เหตุนั้น ไม่เป็นฐานะ
ไม่เป็นโอกาส, ใช้ในอรรถสัตตมีวิภัตติ ได้ในประโยคนี้ว่า ยํ วิปสฺสี ภควา
กปฺเป อุทปาทิ
พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าวิปัสสี เสด็จอุบัติในกัปใด,
ใช้ในอรรถปฐมาวิภิตติ ได้ในประโยคเป็นต้นว่า ยํ โข เม ภนฺเต เทวานํ
ตาวตึสานํ สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ, อาโรเจมิ ตํ ภควโต

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เรื่องใด ข้าพระองค์ได้ยินมาต่อหน้ารับมาต่อหน้าทวย-
เทพชั้นดาวดึงส์ ข้าพระองค์จะทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า, แม้ในที่นี้
ก็พึงเห็นว่าใช้ในอรรถปฐมาวิภัตติ. ทรงแสดงว่าความอัศจรรย์ทั้งหลายอย่างอื่น
ของเรา ที่แปลกประหลาดพิเศษยังมีเป็นอันมาก.

บัดนี้ เมื่อจะทรงแสดงความอัศจรรย์เหล่านั้น จึงตรัสคำเป็นต้นว่า
ครั้งใด เราชื่อว่าท้าวสันดุสิตอยู่ในหมู่เทพชั้น
ดุสิต ครั้งนั้น หมื่นโลกธาตุ ก็พากันประคองอัญชลี
อ้อนวอนเรา.

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ยทา แปลว่า ในกาลใดพระผู้มีพระภาค-
เจ้าทรงชี้พระองค์เองด้วยบทว่า อหํ. บทว่า ตุสิเต กาเย ได้แก่ หมู่เทพที่
ชื่อว่าดุสิต. ก็ในกาลใดเราบำเพ็ญบารมี 30 ถ้วน บริจาคมหาบริจาค 5 ถึงที่
สุดแห่งญาตัตถจริยา โลกัตถจริยาและพุทธจริยา ให้สัตตสตกมหาทาน ทำ
แผ่นดินให้ไหว 7 ครั้ง จุติจากอัตภาพเป็นพระเวสสันดรแล้วก็บังเกิดในภพ
ดุสิต ในวาระจิตที่สอง แม้ในกาลนั้นเราก็ได้เป็นเทวราชชื่อท้าวสันดุสิต. บทว่า
ทสสหสฺสี สมาคมฺม ความว่า เทวดาในหมื่นจักรวาลมาประชุมกันแล้ว.
บทว่า ยาจนฺติ ปญฺชลี มมํ ความว่า เทวดาหมื่นโลกธาตุ เข้าไปหาเรา
อ้อนวอนเราว่า ข้าแต่ท่านผู้นิรทุกข์ พระองค์เมื่อบำเพ็ญบารมี 10 ทัศ มิใช่
ปรารถนาสมบัติท้าวสักกะ มิใช่ปรารถนาสมบัติมาร มิใช่ปรารถนาสมบัติพรหม
มิใช่ปรารถนาสมบัติจักรพรรดิบำเพ็ญ แต่พระองค์ปรารถนาความเป็นพระพุทธ-
เจ้าบำเพ็ญเพื่อช่วยขนสัตว์ข้ามโอฆสงสาร. ด้วยเหตุนั้น ท่านพระสังคีติกาจารย์
ทั้งหลายจึงกล่าวว่า [เทวดาในหมื่นโลกธาตุทูลวอนว่า]
ข้าแต่พระมหาวีระ นี้เป็นกาลสมควรสำหรับ
พระองค์ ขอพระองค์โปรดอุบัติในครรภ์พระมารดา
ขอพระองค์ เมื่อจะทรงช่วยมนุษย์โลกพร้อมทั้งเทวโลก
ให้ข้ามโอฆสงสาร โปรดจงตรัสรู้อมตบทเถิด.